Apple ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนตระกูล iPhone กำลังเผชิญปัญหายอดส่งออกมือถือ iPhone 14 Pro Series ต่ำกว่าความต้องการของตลาดราว 15 – 20 ล้านเครื่อง เนื่องมาจากปัญหาพนักงานในโรงงานประกอบของ Foxconn ที่เมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน รวมตัวกันหยุดงานประท้วงเพื่อเรียกร้องค่าจ้างและสวัสดิการ ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกค้าจำนวนมากที่ไม่สามารถซื้อมือถือหันไปเลือกซื้อมือถือค่ายอื่นแทน ทำให้บริษัทเสียโอกาสในการทำเงินจากมือถือรุ่นใหม่ของตัวเองไป
Apple อาจสูญเสียรายได้ 20 – 30% จากเป้าหมายเดิม เพราะ iPhone 14 Pro Series ขาดตลาด
“หมิง-ชิ เกา” (Ming-Chi Kuo) ผู้สันทัดกรณีฝั่งApple ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทกำลังประสบปัญหายอดส่งออกมือถือ iPhone 14 Series ต่ำกว่าความต้องการของตลาดราว 15 – 20 ล้านเครื่อง เนื่องมาจากปัญหาพนักงานในโรงงานประกอบของ Foxconn ที่เมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน รวมตัวกันหยุดงานประท้วง โดยโรงงานแห่งนี้รับผิดชอบการประกอบ iPhone 14 Pro Series ส่วนใหญ่ที่วางขายอยู่ในตลาดทั่วโลก
แต่ทว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โรงงานมีกำลังการผลิตเพียง 20% เท่านั้น แม้ทาง Foxconn จะเร่งหาพนักงานใหม่เข้ามาเพิ่มกำลังการผลิต แต่คาดว่าน่าจะขยับเพิ่มได้มากสุดแค่ 30 – 40% ในเดือนธันวาคม หรือพูดง่าย ๆ ว่าไม่ถึงครึ่งของยอดการผลิตที่บริษัทตั้งเป้าไว้ และหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็อาจส่งผลให้ลูกค้าจำนวนมากหมดความอดทนหันไปเลือกซื้อรุ่นที่ถูกกว่าอย่าง iPhone 14 และ iPhone 14 Plus หรือไม่ก็เปลี่ยนไปซื้อมือถือของค่ายอื่นแทน โดย หมิง-ชิ เกา คาดว่าบริษัทจะสูญเสียรายได้จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ 20 – 30% เลยทีเดียว
นอกจากนี้ปัญหาสินค้าขาดตลาดแล้วApple ยังเผชิญกับปัญหาชิ้นส่วนต่าง ๆ ของ iPhone 14 Pro Series กำลังจะล้นสต็อก เพราะก่อนหน้านี้บริษัทได้สั่งซื้อสิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อเตรียมนำมาประกอบแบบเต็มอัตรา แต่โรงงานประกอบของ Foxconn กลับดำเนินงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้มีชิ้นส่วนเหลือค้างสต็อกอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทต้องปรับลดการสั่งซื้อชิ้นส่วนในช่วงต้นปีหน้า
สามารถติดตาม ข่าวไอที อัพเดท ข่าว IT เพื่อประสิทธิภาพต่อการใช้งานได้ดีที่สุด